อัปเดต Anthropic: เปิดตัว Opus 4.5 โมเดลเรือธงสุดแกร่ง พร้อมสำหรับงานจริง
การอัปเกรดครั้งสำคัญที่ยกระดับความสามารถด้านการเขียนโค้ด การใช้เครื่องมือ พร้อมฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Chrome, Excel และการสนทนาที่ต่อเนื่องไม่มีสะดุด
วันนี้มีข่าวอัปเดตวงการ AI ที่น่าตื่นเต้นมาฝากกันอีกครั้งครับ โดยล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 พ.ย. 2568) บริษัท Anthropic ได้ประกาศเปิดตัว Opus 4.5 ซึ่งเป็นโมเดลเรือธงตัวสุดท้ายในซีรีส์ 4.5 (ต่อจาก Sonnet 4.5 และ Haiku 4.5)
อัปเกรดความสามารถของ Opus 4.5
สิ่งที่ทำให้ Opus 4.5 น่าจับตามองมากที่สุดคือประสิทธิภาพที่ล้ำสมัยในหลาย ๆ ด้านครับ ไม่ว่าจะเป็น
1. ด้านการเขียนโค้ด (Coding): Opus 4.5 ทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมบนเกณฑ์มาตรฐานอย่าง SWE-Bench และ Terminal-bench และที่สำคัญคือ เป็นโมเดลตัวแรกที่ทำคะแนนได้เกิน 80% บนเกณฑ์มาตรฐาน SWE-Bench Verified ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการ สำหรับใครที่กำลังฝึกเขียนโค้ด หรือต้องการ AI มาเป็นผู้ช่วย นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้
2. ด้านการใช้เครื่องมือ (Tool Use): มีความสามารถสูงขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ร่วมด้วย
3. ด้านการแก้ปัญหาทั่วไป (General Problem Solving): ทำคะแนนได้สูงในการแก้ปัญหาทั่วไปในหลาย ๆ แบบทดสอบ
การอัปเกรดทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังก้าวไปสู่จุดที่ฉลาดและไว้ใจได้มากขึ้นในการทำงานที่ซับซ้อน เหมือนเรามีผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถจัดการงานที่ยุ่งยากแทนเราได้
ฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อ Chrome และ Excel ได้
Anthropic ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การพัฒนาโมเดลในห้องทดลอง แต่ยังให้ความสำคัญกับการใช้งานจริงบนคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสเปรดชีต (Excel) ด้วยครับ เพื่อให้เห็นภาพความสามารถที่ชัดเจนนั้น Anthropic ได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกัน ได้แก่
1. Claude for Chrome: ส่วนขยาย (Extension) สำหรับเบราว์เซอร์ Chrome ที่จะเปิดให้ผู้ใช้ Max ทุกคนได้ใช้งาน ลองนึกภาพว่าเราจะสามารถใช้ Claude ช่วยสรุปเนื้อหาบนหน้าเว็บ ตอบคำถามจากบทความยาว ๆ หรือแม้แต่ช่วยร่างอีเมลจากข้อมูลที่เรากำลังดูอยู่ได้ง่ายดายเพียงใด
2. Claude for Excel: โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานกับ Excel โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ต้องจัดการข้อมูล สรุปตัวเลขหรือวิเคราะห์สเปรดชีต นี่คือเครื่องมือที่จะเข้ามาเปลี่ยนเกม (Game Changer) อย่างแท้จริง มันจะช่วยให้เราจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิมอย่างมาก ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ผู้ใช้ Max, Team และ Enterprise ได้ใช้งาน
สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องทำรายงานหรือโปรเจกต์กับ Excel ฟีเจอร์นี้น่าสนใจมากครับ ลองจินตนาการว่า AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่อาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ให้เสร็จสิ้นได้ในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
สนทนาต่อเนื่องด้วย Endless Chat
อีกหนึ่งการอัปเกรดที่สำคัญและเป็นที่เรียกร้องมานานคือ การจัดการความจำสำหรับบริบทที่ยาว (Long-Context Operations) นั่นเองครับ
เพราะโดยปกติแล้ว AI จะมี "Context Window" หรือขีดจำกัดในการจดจำและประมวลผลข้อมูลในการสนทนาแต่ละครั้ง หากการสนทนายาวเกินไป AI ก็จะเริ่มลืมข้อมูลที่คุยกันไปก่อนหน้า
แต่ Opus 4.5 ได้ปรับปรุงเรื่อง โดยเพิ่มความสามารถในการจัดการความจำให้ดีขึ้น นำไปสู่ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Endless Chat สำหรับผู้ใช้ Claude แบบชำระเงิน
แล้ว Endless Chat คืออะไร? มันคือฟีเจอร์ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโมเดลจะถึงขีดจำกัดของ Context Window แล้วก็ตาม หลักการทำงานของฟีเจอร์นี้คือ แทนที่จะหยุดหรือลืมข้อมูลเดิม โมเดลจะทำการ "บีบอัด" ความทรงจำในบริบทนั้น ๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า Anthropic ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การขยาย Context Window ให้ยาวขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการที่ AI รู้ว่าควรจดจำรายละเอียดใดไว้ เพื่อให้การสนทนามีคุณภาพและไม่หลุดประเด็นไป ไม่ว่าจะคุยกันนานแค่ไหนก็ตามครับ
AI Agentic Use Cases คืออะไร?
การอัปเกรดหลายอย่างของ Opus 4.5 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Agentic Use Cases โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคที่อธิบายได้ง่าย ๆ คือการที่ AI ตัวหนึ่ง (ในที่นี้คือ Opus 4.5) ทำหน้าที่เป็น "หัวหน้า Agent" (Lead Agent) ที่สามารถสั่งการและมอบหมายงานให้กับกลุ่ม "Agent ย่อย" (Sub-Agents) ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า (เช่น Haiku 4.5) ให้ทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุภารกิจที่ซับซ้อน
ตัวอย่าง: Opus 4.5 อาจได้รับคำสั่งให้ "แก้ไขโค้ดฐานข้อมูลทั้งหมดของบริษัท" จากนั้นมันจะมอบหมายให้ Haiku 4.5 ไปสำรวจโค้ดเบสหรือตรวจสอบเอกสารขนาดใหญ่ ขณะที่ Opus 4.5 จะทำหน้าที่ควบคุมภาพรวม ตรวจสอบ และตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรจะย้อนกลับไปทบทวนขั้นตอนใดอีกครั้งครับ
นี่คือจุดที่การจัดการความจำของโมเดลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ AI ที่เป็นหัวหน้าต้องจดจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในทุกขั้นตอนเพื่อทำงานที่ซับซ้อนให้สำเร็จ นับเป็นการก้าวสู่ยุคที่ AI สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเลยล่ะครับ
แม้ว่า Opus 4.5 จะเป็นโมเดลที่น่าทึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลาด AI ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมาก โดยมีคู่แข่งสำคัญที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้าอย่าง GPT-5.1 ของ OpenAI และ Gemini 3 ของ Google
แต่การแข่งขันนี้ถือเป็นข้อดีสำหรับผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ เพราะมันผลักดันให้เทคโนโลยีพัฒนาดีขึ้นและเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่า AI ที่เราใช้จะฉลาดขึ้นและช่วยเราทำงานได้มากขึ้นไปอีกขั้นเลยล่ะครับ