Back to News
AI News

Mistral AI ผงาด! ฝรั่งเศสประกาศศักดา สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI สู้ยักษ์คลาวด์อเมริกา พร้อมโมเดลใหม่เทพขึ้นเทียบชั้น OpenAI และจีน

Mistral Compute และ Magistral Series ตอกย้ำบทบาทของยุโรปในสมรภูมิ AI ระดับโลก

Tiger's avatar
Tiger
Admin
June 12, 2025
AI MistralAI

ข่าวใหญ่วันนี้ เป็นข่าวจากฝั่งจากยุโรปมาฝากน้อง ๆ ชาว AI ทุกคนครับ
ทุกคนทราบกันไหมครับว่าตอนนี้ Mistral AI สตาร์ทอัพ AI สุดปังจากฝรั่งเศส ที่มี Microsoft หนุนหลังอยู่ กำลังผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของยักษ์ใหญ่คลาวด์คอมพิวติ้งฝั่งอเมริกาอย่าง AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud เลยนะครับ ซึ่งไม่ใช่แค่พัฒนาโมเดล AI อย่างเดียวแล้ว แต่กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตัวเองขึ้นมาทั้งหมด


Mistral AI เปิดตัวแพลตฟอร์ม Mistral Compute และโมเดล Magistral Series

Mistral AI สตาร์ทอัพ AI สุดปังจากฝรั่งเศส ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า Mistral Compute ซึ่งสร้างขึ้นโดยจับมือกับ Nvidia วัตถุประสงค์หลักก็คือ เพื่อให้บริษัทและหน่วยงานรัฐบาลในยุโรปมีทางเลือก ไม่ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการคลาวด์จากอเมริกาเพียงอย่างเดียว

Arthur Mensch ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Mistral AI ถึงกับกล่าวว่านี่คือ "ก้าวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปสู่การควบคุมห่วงโซ่คุณค่า AI ทั้งหมด" นี่แหละคือการสร้าง "อิสระทางเทคโนโลยี" ของยุโรปที่แท้จริง

นอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐานแล้ว Mistral AI ยังเปิดตัวโมเดล AI ใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Magistral อีกด้วย โมเดลเหล่านี้มีความสามารถในการคิดแบบมีเหตุผลทีละขั้นตอน (step-by-step logical thinking) ได้เก่งพอ ๆ กับโมเดล O1 ของ OpenAI หรือ DeepSeek R1 ของจีนเลย


สิ่งที่ทำให้ Mistral โดดเด่นกว่าคู่แข่ง

Guillaume Lample หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Mistral ชี้แจงว่าพวกเขา "ทำทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น" และเน้นความยืดหยุ่นในการทำงาน ที่สำคัญ คือ โมเดลของ Mistral จะแสดง "กระบวนการคิดทั้งหมด" ให้ผู้ใช้งานเห็น และแสดงเป็นภาษาของคนใช้งานด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นมากว่า AI มีกระบวนการคิดอย่างไรจึงได้คำตอบออกมาเช่นนั้น

แล้วอะไรที่ทำให้ Magistral มีความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก ที่น่าทึ่งคือ ระหว่างการฝึกฝน โมเดล Magistral Medium กลับมีความสามารถในการเข้าใจภาพ (multimodal reasoning) ได้ด้วย ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกฝึกแค่ข้อมูลที่เป็นข้อความเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ และการเขียนโค้ดเท่านั้น คล้ายกับการมีพลังพิเศษที่ปรากฏขึ้นเองเลยนะครับ

ไม่แค่นั้นนะครับ โมเดลยังสามารถ "ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต" และ "รันโค้ด" เพื่อตอบคำถามที่ซับซ้อนได้เองอัตโนมัติอีกด้วย Lample กล่าวว่า พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติโดยไม่ต้องสอนเพิ่มเติมเลย


เคล็ดลับความเร็วของ Mistral ที่ทำให้เหนือกว่าคู่แข่ง

ทีมวิศวกรของ Mistral ได้พัฒนาเทคนิค "online reinforcement learning" ที่ช่วยให้โมเดล AI สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่กำลังสร้างคำตอบ ไม่ต้องรอข้อมูลฝึกเก่า ๆ อีกต่อไป กุญแจสำคัญคือการอัปเดตโมเดลพร้อมกันใน GPU หลายร้อยตัวแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำได้เร็วกว่าปกติเป็นชั่วโมงเลย

ทำให้การฝึกฝนโมเดลเร็วขึ้นและถูกลงมาก นั่นหมายความว่า AI ของ Mistral สามารถตอบสนองต่อคำถามซับซ้อนได้ในไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากโมเดลอื่นที่อาจใช้เวลาหลายนาที นี่แหละคือจุดที่ทำให้ AI ของ Mistral ใช้งานได้จริงและตอบโจทย์ธุรกิจได้ดีกว่า


การสนับสนุนจาก Nvidia และ "อิสรภาพทางเทคโนโลยีของยุโรป"

และที่สำคัญกว่านั้นคือ Nvidia สนับสนุนเต็มที่ด้วยการจัดส่งชิป Grace Blackwell ล่าสุดกว่า 18,000 ตัวให้กับ Mistral Compute เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในฝรั่งเศส และมีแผนจะขยายไปทั่วยุโรป

Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia เชื่อว่านี่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับ "อิสรภาพทางเทคโนโลยีของยุโรป" เขาคาดการณ์ว่าภายในสองปีข้างหน้า กำลังการประมวลผล AI ของยุโรปจะเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า และจะมี "โรงงาน AI" มากกว่า 20 แห่งทั่วทวีป บางแห่งอาจเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็เป็นได้


ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

การที่ Mistral หันมาเน้นโครงสร้างพื้นฐาน AI ไม่ใช่แค่เรื่องการแข่งขันทางธุรกิจเท่านั้นนะครับ แต่มันยังช่วยแก้ปัญหาสองเรื่องใหญ่ ๆ ของ AI ด้วย นั่นคือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ การรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (data sovereignty) แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ลูกค้าในยุโรปสามารถเก็บข้อมูลของพวกเขาไว้ในเขต EU และภายใต้กฎหมายของยุโรปได้ แถม Mistral ยังจับมือกับหน่วยงานและที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนของโมเดล AI ตลอดวงจรชีวิต และจะใช้พลังงานสะอาดในการขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลด้วยนะครับ สุดยอดไปเลยครับ


การเคลื่อนไหวของ Mistral ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะเป็นแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจร ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการโมเดล AI เท่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์ในวงการก็มองว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของกระแสการพัฒนา AI ในระดับภูมิภาคที่กำลังมาแรง เพราะรัฐบาลยุโรปเองก็กังวลเรื่องการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีจากอเมริกา สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สำคัญ และได้ทุ่มงบกว่า 2 หมื่นล้านยูโรเพื่อสร้าง "AI gigafactories" ทั่วทวีปด้วย


อนาคตของ Mistral AI

คุณ Lample เล่าว่าความแม่นยำของโมเดลมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมาก บางสัปดาห์เพิ่มขึ้นถึง 5% ในบางเกณฑ์มาตรฐาน นี่แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสอีกมากมายในการพัฒนาประสิทธิภาพของ AI ด้วยแนวคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกเพียบเลยนะครับ


เห็นแบบนี้แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของ AI กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับกระแสเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพื่อไม่ให้เราตกยุค และสามารถคว้าโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจาก AI ได้

ที่ Stylor Academy เราเข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดี จึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการสอนทฤษฎีเท่านั้น แต่เราเน้นให้ทุกคนได้ลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้เทคนิคที่เข้าใจง่ายและสนุก เพื่อช่วยให้สามารถสร้างสรรค์โปรเจกต์ AI ของตัวเอง ได้จริง และมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอด ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราจะสามารถเข้าใจเนื้อหาและเทคนิคต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมนำความรู้ และเทคนิคเหล่านี้ไปต่อยอดในอนาคตได้อย่างมั่นใจ และเป็นรูปธรรมครับ

ที่มา: https://venturebeat.com/ai/microsoft-backed-mistral-launches-european-ai-cloud-to-compete-with-aws-and-azure/