Slack ผนึก AI: สรุปแชท อธิบายศัพท์ยาก และทำงานอัตโนมัติ ช่วยให้ชีวิตทำงานง่ายขึ้น
Salesforce เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Slack ที่จะมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งช่วยเขียนข้อความ ค้นหาข้อมูลข้ามแอปพลิเคชัน และทำงานอัตโนมัติ
Salesforce เจ้าของ Slack เขาปล่อยฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ออกมาเพียบเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็น
1. AI ช่วยเขียนข้อความ: แค่บอกว่าอยากให้เขียนอะไร AI ก็ช่วยร่างให้ทันที ไม่ต้องเสียเวลานั่งคิดเองเลย แถมยังเอาไปสร้างสรุปโปรเจกต์จากบทสนทนา หรือเปลี่ยนโน้ตการประชุมให้เป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ได้ด้วย คือมันดีงามมากทุกคน
2. อธิบายคำศัพท์ยากๆ ให้เข้าใจง่าย: เคยไหมที่อ่านแชทแล้วเจอคำย่อ ศัพท์เฉพาะ หรือชื่อโปรเจกต์ที่ไม่คุ้น แล้วต้องเสียเวลาไปถามเพื่อนหรือหาข้อมูลเอง ต่อไปนี้แค่เอาเมาส์ไปชี้ Slack AI ก็จะอธิบายให้เราเข้าใจได้ทันที เจ๋งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ
3. ค้นหาข้อมูลข้ามแอปพลิเคชัน: อันนี้คือไฮไลต์ ปกติเราต้องเปิดหลายแอปเพื่อหาข้อมูลใช่ไหม แต่ตอนนี้ Slack ให้เราค้นหาข้อมูลได้จาก Salesforce, Microsoft Teams, Google Drive, Confluence และ Box ได้จากที่เดียวใน Slack เลย คือมันช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะมากนะ จากผลวิจัยบอกว่าพนักงานใช้เวลาถึง 41% ไปกับการค้นหาข้อมูลที่กระจัดกระจายเนี่ยแหละ
ทำไม Salesforce ถึงกั้นไม่ให้ AI ข้างนอกเข้ามาใช้ข้อมูล Slack
ตอนนี้ Salesforce กำลังใช้กลยุทธ์ "สวนปิด" (Walled Garden) คือจำกัดไม่ให้บริษัท AI ภายนอกเข้าถึงข้อมูลใน Slack เพื่อนำไปฝึกฝนโมเดล AI ของตัวเอง การทำแบบนี้ก็เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากๆ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลอ่อนไหว เขามั่นใจว่า AI ของตัวเองจะดีกว่าและปลอดภัยกว่า ถึงแม้ว่าลูกค้าอาจจะชอบความยืดหยุ่นในการเลือกใช้เครื่องมือที่หลากหลายมากกว่าก็ตาม แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ากลยุทธ์นี้จะเวิร์คแค่ไหนนะ
AI ใน Slack จะมาพลิกโฉมการทำงานในอนาคตได้อย่างไร
Shalini Agarwal, รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Slack บอกว่า AI ของ Slack จะโผล่มาช่วยงานในทุกที่ที่งานเกิดขึ้น ทั้งการสนทนา การตัดสินใจ และการจัดทำเอกสาร ที่สำคัญคือมันเข้าใจ "บริบท" ของข้อมูลใน Slack ได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ AI ตอบสนองได้ตรงจุดและมีประโยชน์จริงๆ
Salesforce มองเห็นอนาคตที่ AI Agents จะทำงานซับซ้อนข้ามระบบได้เอง อย่างตอนนี้ก็มี Agentforce ใน Slack ที่เป็นผู้ช่วยดิจิทัลคอยอัปเดตข้อมูลลูกค้าใน CRM หรือช่วยในการต้อนรับพนักงานใหม่แล้วนะ ทีมขายของ Salesforce เองก็ประหยัดเวลาไปได้ 66,000 ชั่วโมงต่อปีเลยทีเดียวจากการใช้ AI ช่วย
Slack กำลังก้าวไปอีกขั้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการทำงานยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI แม้จะมีคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Microsoft Teams ที่มี Copilot และ Google Duet AI แต่ Slack ก็มีจุดแข็งที่เน้นการสนทนาเป็นหลัก ทำให้ AI เข้าใจบริบทการทำงานได้ดีกว่า ฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ เหล่านี้จะรวมอยู่ในแพ็กเกจ Slack แบบเสียเงินทั้งหมด โดยฟีเจอร์ขั้นสูงจะอยู่ในแพ็กเกจที่สูงขึ้นไป
นี่คือโอกาสดีที่เราจะได้เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี AI ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกการทำงานของเรา
ใครที่ยังไม่เคยลองใช้ AI ในการทำงาน หรืออยากพัฒนาทักษะ AI ให้ก้าวหน้า Stylor Academy พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ทุกคนเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีนี้ด้วยกันครับ